
เลนส์นี้ใช้ระบบการโฟกัสภายในแบบ floating-type ที่มี 3 ระบบขับเคลื่อนการทำงาน เพื่อให้ได้ภาพถ่ายคุณภาพสูง ไม่ว่าจะตั้งระยะโฟกัสไว้ที่จุดใด (ตั้งแต่การถ่ายทิวทัศน์ ไปจนถึงการถ่ายภาพมาโครในอัตราส่วน 1:1*) ชิ้นเลนส์ ED (Extra-low Dispersion) และ HR (High Refractive index) ถูกใช้ในกลุ่มเลนส์แบบไม่เคลื่อนที่ ในขณะที่ชิ้นเลนส์ HR และ E-HR (Extra-High Refractive index) จะถูกใช้ในกลุ่มเลนส์โฟกัส การออกแบบเลนส์ในลักษณะนี้ทำให้สามารถจำกัดปัญหาการเกิดความคลาดสี (chromatic aberrations)และลดการเกิดแสงสะท้อนภายในเลนส์ ซึ่งมักเกิดกับเลนส์มาโคร เลนส์ชนิดนี้จึงให้ผลลัพธ์คุณภาพของภาพที่สูงกว่าเลนส์ Zuiko Digital 50mm F2.0 Macro ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องของคุณภาพของภาพระดับสูง
เพื่อให้ได้การปรับละลายฉากหลังเป็นพื้นที่ทรงกลมอย่างแท้จริง แม้ใช้รูรับแสงกว้างสุด (F2.8) เลนส์นี้จึงมีการนำทางของลำแสงส่งไปยังพื้นที่โดยรอบๆ ผลที่ได้คือการลดการเกิดขอบมืด ทีเป็นผลมาจาก การละลายฉากให้ได้โบเก้ทรงกลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพมาโคร ตัวชิ้นเลนส์ได้รับการออกแบบมาให้สามารถ แก้ไขการเกิด double-line ของฉากหลังที่ส่งผลให้พื้นที่ที่ถูกเบลอนั้นถูกล้อมรอบด้วยเส้นคู่ และเกิดความผิดเพี้ยนของสี
การเคลือบพื้นผิวเลนส์แบบ ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) Coating สามารถกำจัดปัญหาอย่างการเกิดแสงฟุ้ง (ghosts) และแสงแฟลร์ (flares) ที่เคยเป็นเรื่องยากต่อการแก้ไข เนื่องจากตัวเลนส์มีความโปร่งแสงสูง การเคลือบแบบ ZERO Coating จึงทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีความคมชัดสูง แม้อยู่ภายใต้สภาวะที่ท้าทาย เช่น การถ่ายภาพย้อนแสง
แสงแฟลร์แบบจุดเป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการถ่ายภาพใสฉากที่มีศูนย์กลางที่มืด แต่บริเวณรอบๆ นั้นสว่าง โดยใช้รูรับแสงแบบ stopped-down ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เกิดแสงแฟลร์รูปร่างคล้ายไดอะแฟรมรูรับแสงในเฟรมภาพ เนื่องจาการจัดวางเลย์เอาท์ที่ได้รับการพัฒนาของกลุ่มเลนส์ด้านหลังรูรับแสงและผลลัพธ์ของการเคลือบแบบ ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) Coating เลนส์นี้จึงสามารถแก้ปัญหาและลดการเกิดแสงแฟลร์แบบเป็นจุดได้ เป็นประโยชน์สำหรับ การถ่ายภาพวัตถุที่มีขนาดเล็กเพื่อลงเวปการประมูลแบบออนไลน์ และสำหรับการถ่ายภาพในสภาวะที่มีความเปรียบต่างของสีแสงสูง (Contrast สูง)
กระบอกเลนส์ที่ได้รับการผลิตอย่างประณีตทุกรายละเอียด เพื่อการจับต้องได้อย่างมั่นใจ คุณสมบัติอื่นๆ อย่างเช่น สวิตซ์กำหนด Focus Limit และมี หน้าปัดแสดงระยะถ่ายถาพ/อัตรากำลังขยาย เพิ่มประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการถ่ายถาพมาโครของคุณ พร้อมกับภาพที่มีความคมชัดสูง เลนส์นี้ยังให้คุณสนุกกับการใช้มือปล่าวถ่ายภาพมาโครมากยิ่งขึ้น (ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง) เมื่อใช้ร่วมกับ OM-D E-M1 หรือ E-M5 ที่ให้ความนิ่งและมั่นคงสูงสุด ด้วยกลไกป้องกันภาพสั่นใหว แบบ 5 แกนอันทรงพลัง ที่สามารถแก้ไขการเบลอแบบเลื่อนที่ (shift blur) ในระหว่างการถ่ายภาพมาโคร
สวิตซ์ Focus Limit จะกำหนดช่วงระยะของการโฟกัสเพื่อให้ได้การโฟกัสที่เร็วขึ้น สามารถปรับอัตราการขยายภาพได้ตั้งแต่ 1x, 0.25x และ 0.125x ได้อย่างทันที
การปรับ indicator เป็น 1:1 จะเป็นการกำหนดระยะโฟกัสไปที่ระยะใกล้สุด (0.19 ม.)
โฟกัสจะถูกกำหนดในระยะตั้งแต่ 0.19 ถึง 0.4 ม.
โฟกัสจะถูกกำหนดในระยะตั้งแต่ 0.19 ถึง ∞.
โฟกัสจะถูกกำหนดในระยะตั้งแต่ 0.4 ถึง ∞ อัตราการขยายภาพถูกกำหนดไว้ที่ 1:8 (0.125x) เมื่อตั้งค่าเป็นดัชนีนี้
หน้าปัด indicator แสดงระยะการถ่ายภาพ/อัตรากำลังขยายภาพจะถูกวางไว้บนกระบอกเลนส์ หน้าปัด indicator แสดงพื้นที่การโฟกัสทั้งหมด และให้คุณทราบถึงจุดโฟกัสได้ในทันที นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณหมุนวงแหวนโฟกัสผิดทิศทาง และปรับเน้นการควบคุมในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งความแม่นยำที่การโฟกัสแบบแมนนวล เลนส์ ED 60mm F2.8 Macro เป็นเลนส์มาโครหนึ่งเดียว* สำหรับกล้องชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีคุณสมบัติอย่างเช่น indicator
กลไก MSC (Movie and Still Compatible) เป็นเทคโนโลยีการออกแบบเลนส์ล่าสุด เพื่อให้ได้การโฟกัสที่รวดเร็วและเงียบ ด้วยน้ำหนักที่เบา และชิ้นเลนส์ที่น้อยลง ส่วนของเฟืองได้ถูกตัดออกไป เพื่อลดเสียงรบกวนขณะทำงาน การขับเคลื่อนเลนส์โฟกัสโดยใช้เพลาโลหะที่มีความแม่นยำระดับซับไมครอน และสกรูที่เป็นตัวเคลื่อน (screw drive) ทำให้การโฟกัสอัตโนมัติทำงานรวดเร็ว, ลื่นไหล, เงียบ และมีความแม่นยำสูง
ด้วยการใช้ซีลรูปวงแหวนครอบคลุมในทุกๆตำแหน่งสำคัญ ทั่วทั้งตัวเลนส์ ทำให้เลนส์รุ่นนี้มีคความสามารถในการป้องฝุ่นและละอองน้ำเทียบเท่ากับเลนส์ในุร่น Super High Grade และ High Grade Zuiko Digital เลนส์นี้สามารถใช้งานได้ในทุกๆ สภาวะ แม้ในเวลาที่ฝนตก หรือการทำกิจกรรมสุดมันส์กลางแจ้ง เมื่อนำเลนส์นี้ใช้งานกับกล้อง OM-D E-M5 ประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่นและละอองน้ำก็ยังคงมีคุณภาพเช่นเดิม เพื่อให้คุณสามารถเต็มที่กับการถ่ายภาพโดยไม่ต้องกังวลว่ากล้องจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดหรือไม่